รวบโจรกางเกงในตัวเดียว ประวัติ 9 คดี 9 พื้นที่ ใส่กกน.ตัวเดียวปล้น

รวบโจรกางเกงในตัวเดียว ประวัติ 9 คดี 9 พื้นที่ ใส่กกน.ตัวเดียวปล้น

โจรกางเกงในตัวเดียว สิ้นท่า หลังก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่นครนายก เสียหายเกือบ 2 ล้าน ประวัติเพียบ 9 คดี 9 พื้นที่ ใส่ กกน.ตัวเดียวปล้น กรณีโจรแสบ บุกชิงทรัพย์ ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “BANANA” สาขานครนายก อ.เมืองนครนายก จังหวัดนครนายก โดยได้ทรัพย์สินไปกว่า 128 รายการ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,914,895 บาท ความคืบหน้าล่าสุด ภายหลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.2 ลงพื้นที่ตรวจสอบ ทราบชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุ นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาส โดยคนร้ายนิยมแต่งกาย ด้วยการสวมใส่ “กางเกงในตัวเดียว” จนได้ฉายา โจรกางเกงในตัวเดียว แถมจากการตรวจสอบประวัติต้องโทษยังพบว่า หนุ่มนราธิวาสรายนี้ก่อเหตุมาแล้วกว่า 9 คดี 9 พื้นที่ (สภ.เมืองยะลา, สภ.หาดใหญ่, สภ.เมืองพัทลุง, สภ.เมืองนครศรีธรรมราช, สภ.เมืองหนองบัวลำภู, สภ.เมืองอุบลราชธานี, สภ.หัวหิน, สน.สายไหม) ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวในคดีล่าสุดที่บุกปล้นร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวถึงคดีของโจรกางเกงในตัวเดียวว่า 

หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า นายเจ๊ะอิสมะแอ มาสำรวจที่เกิดเหตุไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง และก่อนจะลงมือก่อเหตุยังได้ตัดสายกล้องวงจรปิดและถอดเซิฟเวอร์กล้องไปด้วย อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหน้าที่บุกรวบตัวได้ที่ห้องพักย่าน ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส ให้การรับสารภาพเป็นคนลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “BANANA” สาขานครนายกจริง ก่อนหลบหนีมาอยู่คอนโดและถูกจับกุมตัวในที่สุด เบื้องต้นในชั้นจับกุมเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ หรือรับของโจร” และเป็นบุคคลตามหมายจับ จำนวน 4 หมายจับ

เจ้าหน้าที่สุวรรณภูมิรวบ สาวยูเครน ลักลอบนำเข้าเต่า กว่า 116 ตัว มูลค่าของกลาง 9 แสนบาท สืบพบปลายทางอยู่ที่เอธิโอเปีย นายสธน คงเงิน หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจประมงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เข้าจับกุม นาง ออลก้า คริสโตฟา หญิงชาวยูเครน

หลังจากที่ตรวจพบเต่ามีชีวิตนำเข้า 116 ตัว หลังจากที่ได้โดยสารจากประเทศแทนซาเนีย ด้วยสายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ เพื่อต่อเครื่องก่อนจะเดินทางไปยัง กรุงอาดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย ประเทศปลายทาง โดยในสัมภาระแบ่งเป็นเต่า เต่าดาวรัศมี  จำนวน 14 ตัว, เต่าแพนเค้ก  จำนวน 98 ตัว และ เต่ายักษ์อัลดาบรา  จำนวน 4 ตัว

จากการตรวจพบครั้งนี้ทำใหทางคณะเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดของกลางทั้งหมดและจับกุมหญิงชาวยูเครน เจ้าของกระเป๋าดังกล่าว โดยได้แจ้งสิทธิต่างๆตามระเบียบแล้ว และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร เป็นผู้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ตาม ปจว.เลขที่ 3 ลว.4 ก.ค.2565 เวลา 18.30 น. คดีอาญาเลขที่126/65 ยึดทรัพย์เลขที่ 94/65 ของกลางได้นำส่ง กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า แล้ว เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2565 เวลา 20.00 น. มูลค่าของกลางประมาณ 900,000 บาท

ตร. เตือน โพสต์รูปตั๋วเครื่อง อาจถูกมิจฉาชีพดึงข้อมูล

รองโฆษกตำรวจ ออกโรงเตือนประชาชนที่กำลังจะเดินทางด้วยเครื่องบินและ โพสต์รูปตั๋วเครื่อง อาจถูกมิจฉาชีพดึงข้อมูล แนะปิด QR โค้ด และบาร์โค้ด พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. ได้ออกโรงเตือนประชาชนที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวด้วยเครื่องบินและชอบโพสต์รูปตั๋วเครื่องบินให้ระมัดระวัง เนื่องจากอาจจะเป็นการเปิดช่องทางให้มิจฉาชีพขโมยข้อมูลไปได้

โดย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบัน สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลง ประชาชนสามารถใช้ชีวิตประจำวันและออกเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น

พบว่ามีพี่น้องประชาชนได้โพสต์ภาพของเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน (boarding pass) และหนังสือเดินทาง ซึ่งเอกสารการดังกล่าวในปัจจุบัน มักจะมีข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญ เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เที่ยวบิน วันเวลาเดินทาง ที่นั่งโดยสาร เป็นต้น อีกทั้งยังมีการเก็บข้อมูลบางส่วนไว้ในรูปแบบของ QR Code หรือ Bar Code อีกด้วย

ซึ่งการโพสต์ภาพเอกสารเดินทางดังกล่าว อาจทำให้มิจฉาชีพสามารถขโมยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการเดินทางของท่านไปใช้ในการกระทำผิด ใช้ในการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ หรือเข้าไปแก้ไขข้อมูลการเดินทางหรือข้อมูลสมาชิกกับสายการบิน ซึ่งอาจทำให้บุคคลที่เป็นเจ้าของเอกสารได้รับความเสียหาย

ขอให้ ระมัดระวังในการโพสต์ภาพของเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางในสื่อสังคมออนไลน์ โดยควรปกปิดข้อมูลส่วนบุคคล QR Code และ Bar Code ที่ปรากฏอยู่บนเอกสาร เพื่อป้องกันการถูกนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในการกระทำความผิด และหากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหาย หรือพบเห็นการถูกนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้กรุณาแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป